วันพุธที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2554

กลัวเมื่อคนส่วนใหญ่กล้า กล้าเมื่อคนส่วนใหญ่กลัว

 
 "กลัวเมื่อคนส่วนใหญ่กล้า กล้าเมื่อคนส่วนใหญ่กลัว" โวหารอมตะจากนักลงทุนเอกของโลกอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์  แต่!! เราจะรู้ได้อย่างไรว่า คนส่วนใหญ่มันกล้า หรือมันกลัว 

จากสภาวะการณ์ตอนนี้ หลังจากวันศุกร์ที่ 22 กันยายน 2554 ตลาดหุ้นไทยทะลุแนวรับสำคัญลงมาปิดที่ 958.16 หลังจากนั้นวันจันทร์ก็ปิดทะลุลงไปอีกไปปิดที่ 904.06 ต่ำสุดในรอบวัน 867.86 จึงเริ่มมีหลายสำนักตกใจออกมาปรึกษากันใหญ่ในโลกอินเตอร์เนต มาดูซิว่าเขากล้าหรือเขากลัวกัน

ฝรั่ง...
เอากำไรจากเมืองไทย ไปทำกำไรตลาดที่ลงแรงๆน่าจะได้กำไรมากกว่าถือหุ้นไทยต่อ

กองทุน...
สองปีผ่านมากำไรเราก็เยอะอยู่ ยิ่งลงคนยิ่งมาซื้อกองทุนดีเสียอีก ใจเย็นๆ รอจังหวะดีๆ เข้าพร้อมฝรั่ง ตอนนี้ก็ซื้อไปตามสัดส่วนเงื่อนไขในกอง

รายย่อย...
กลยุทธ์ของทางสาย technical ที่ใช้กราฟเป็นเครื่องมือสำคัญนั้น ถือเงินสดเป็นส่วนใหญ่ของพอร์ตมาสักพักแล้ว ตลาดขาลงก็จะจับจังหวะรีบาวน์ของขลาดเพื่อทำกำไรระยะสั้น แต่จะไม่เอาเงินไปทิ้งไว้ในหุ้นเพื่อให้มันลดมูลค่าลงไปตามสภาวะตลาด...

กลยุทธ์ทางสาย vi ที่มองพื้นฐานธุรกิจ พื้นฐานมันไม่เปลี่ยน ราคายังถูกกว่ามูลค่า ซื้อครับ ซื้อเพิ่ม ของถูก ไทยแลนด์แกรนด์เซลล์

กลยุทธ์ของรายย่อยทั่วไป เงินเย็น ติดดอยก็ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวมันก็ขึ้น ตลาดหุ้น! มีลงก็ต้องมีขึ้น ผมใช้ประสบการณ์ คอยดู เดี๋ยวมันก็ขึ้น เชื่อพี่!! ตอนนี้ก็เป็น vi จำเป็นไปก่อน (vi จำเป็น!!จริงๆแล้ว แปลว่าติดหุ้น ผมคิดว่า)

กลยุทธ์ของมือใหม่ แว๊กๆ ทำยังไงดี ขายๆๆ ว้ายๆๆขายไม่ไหวแล้วขาดทุนตั้งเยอะ รับไม่ได้ เป็น vi จำเป็นดีไหมอะ ถามเพื่อนดีกว่า...แว๊ก! เพื่อนก็ติดดอย ถือๆ ยังไงก็ยังมีเพื่อนวะ... เห้อออ!! ตลาดหุ้นนี่มันไม่ดีเลย มีลูกมีหลานจะไม่ให้มาเล่นแน่ๆ เดี๋ยวขายเท่าทุนได้ จะเลิกละ

!!แล้วคุณว่าคนส่วนใหญ่กล้า หรือคนส่วนใหญ่กลัวอยู่!!